ในวงการเกมปี 2018 จัดว่าเป็นยุคทองอันโดดเด่นของ Sony อย่างแท้จริงอีกครั้ง เนื่องจาก PS4 ก็ขายดีแบบเทน้ำเทท่าแซงหน้าคู่แข่งอยู่หลายขุม ส่วนทางด้านแว่น PlayStation VR ก็ขายดีเช่นเดียวกัน จนให้ Sony สร้างเกมออกมารองรับมากมายเพื่อตอบสนองความต้องการของเหล่านักเล่นเกม โดยก่อนหน้านี้ Sony เคยประกาศออกมาแล้วว่ามีเกมเตรียมออกบน PlayStation VR เพิ่มอีก 150 เกม
แต่ล่าสุดทาง Sony ก็มีการปรับเปลี่ยนพร้อมประกาศอย่างเป็นทางการว่าใน PlayStation VR จะมีการเกมเพิ่มขึ้นมาอีก 80 % จาก 150 เกม กลายเป็นจำนวนทั้งหมด 280 เกม ซึ่งจะออกบน PlayStation VR ภายในปี 2018 นี้ อย่างแน่นอนส่วนสาเหตุว่าทำไมถึงเปลี่ยนเป็นเพิ่มจำนวนมากขนาดนี้ เป็นเพราะ PlayStation VR มียอดขายมากกว่า 2 ล้านชุด จึงทำให้มีนักพัฒนาสนใจมาทำเกมมากขึ้นนั่นเอง
โดยในปี 2016 Playstataion เปิดตัว Playstation VR เพื่อใช้ในการเล่นเกมโลกเสมือนจริง ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย พร้อมมอบประสบการณ์ในการเล่นเกมให้คุณแบบ 360 องศา
รายละเอียดของตัวเครื่อง
- หน้าจอ 5.7 นิ้ว มาพร้อมความละเอียด 1080p OLED
- สามารถมองภาพได้ 100 องศา
- เรทภาพ 120Hz
Playstation VR มีความก้าวล้ำกว่าแว่น VR ของบริษัทอื่น มีจุดเด่นคือ ความง่ายในการใช้งาน ผู้ใช้สามารถปรับขนาดตามรูปศีรษะของคุณได้ทันที ด้วยการกดปุ่มด้านหลัง ส่วนด้านหน้าผู้ใช้ก็สามารถยื่นเข้าออกเพื่อให้รับกับดวงตาและใบหน้าได้ตามต้องการ ข้อดีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ใส่แว่นตา และยังมีช่องเสียบ HDMI แยกออกมา ใช้ในการเชื่อมต่อทั้ง PS4 และโทรทัศน์ในเวลาเดียวกัน ทำให้คนอื่นๆ เห็นว่าคุณกำลังมองอะไรในเกมอยู่ และร่วมเชียร์ร่วมลุ้น ไปได้อย่างสนุกสนานPlaystation VR มาพร้อมหน้าจอโค้ง 5.7 นิ้ว สามารถครอบคลุมทั้งหมด ตัวแว่นมีเซนเซอร์คอยจับตำแหน่งทิศทางการมองของคุณอย่างแม่นยำ ไม่ว่าคุณจะมองไปทางไหน หรือแม้กระทั่งกลับหลังก็ตาม มันจะทำให้เหมือนกับว่า คุณกำลังมองผ่านดวงตาของคุณเองจริงๆ
โดย PlayStation VR วางจำหน่ายรุ่นแรกออกมาในปี 2016 และในเดือนตุลาปี 2017 หลังจากที่ทาง Sony ได้วางขาย Playstation VR มาเป็นเวลา 1 ปี ก็มีการประกาศออก Playstation VR รุ่นใหม่ในปี 2017 ซึ่งเพิ่มความสามารถ ในเรื่องของความสะดวกสบายในการใช้งานเพิ่มมากขึ้น โดยได้มีการเพิ่มช่องเสียบดู ฝังเข้ามามากับแว่น VR ตรงๆเลย โดยในรุ่นใหม่นี้นอกจากเพิ่มเรื่องระบบสียงแล้ว ก็ยังเพิ่มการสนับสนุน High Dynamic Range (HDR) ซึ่งระบบนี้ช่วยให้เล่น PS4 ที่รองรับ HDR บน TV ได้โดยผู้ใช้ไม่ต้องถอดสายออกจาก Processor Unit ระหว่าง PS4 กับ TV ให้ยุ่งยาก เหมือนในอดีต
